Wednesday, October 9, 2013

ไอเดีย งานศพแปลกๆ จากทั่วโลก


ถ้าพูดถึงงานศพ แน่นอนว่าต้องเป็นงานโศกเศร้าที่ใครๆ ก็คงไม่อยากให้เกิดขึ้นกับตัวเองหรือคนใกล้ชิด แต่สำหรับบางคนแล้ว กลับมีไอเดียงานศพแบบแปลกๆ ที่แทนจะทำให้ดูเศร้ากลับทำให้เรารู้สึกประหลาดใจแทนซะอย่างงั้น 


จ้างนักแสดงเปลื้องผ้ามาแสดงในงานศพ 
 
ที่มาภาพ funeral wise
 
ในประเทศจีน ถือว่ากันถ้างานศพมีคนมาร่วมงานมากเท่าไหร่ก็ยิ่งเป็นเกียรติกับผู้ตายมาก เท่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม บางครั้งคนมาร่วมงานก็มีไม่มากพอ ดังนั้น ผู้จัดงานจึงต้องหาตัวช่วยอื่นที่จะทำให้มีคนสนใจมาร่วมงานมากยิ่งขึ้น อย่างเช่น การจ้างนักแสดงเปลื้องผ้ามาแสดงในงานศพ ซึ่งก็ต้องถือว่าเป็นวิธีการที่ได้ผลดีทีเดียวเพราะคนอยากมาดูของสวยๆ งามๆ มากกว่ามาพิธีศพน่าเบื่อเป็นไหนๆ
 
ถึงจะเป็นวิธีการที่นิยมใช้กันทั่วไป รัฐบาลของประเทศจีนก็ไม่ค่อยปลื้มกับวิธีนี้นัก จนถึงต้องมีการจัดกฏหมายลงโทษผู้ที่จัดงานแสดงอนาจารแบบนี้ รวมถึงเปิดสายด่วนรับแจ้งจากประชาชนว่ามีที่ไหนที่จัดงานศพในลักษณะนี้บ้าง
 
พิธีการงานศพแบบนี้เป็นที่นิยมมากในไต้หวัน ซึ่งนอกจากจะมีนักเต้นสาวๆ มาแสดงในงานศพแบบนี้แล้ว ยังมีการจัดเวทีบนรถบรรทุกขนาดใหญ่ที่ตกแต่งอย่างตระการตาด้วยไฟนีออนหลากสี และกลุ่มนักเต้นสาวเต้นโชว์อยู่บนหลังรถอีกด้วย ผู้จัดงานบางคนก็อ้างว่า การแสดงแบบนี้จำเป็นต่อการทำให้วิญญาณที่หลงทางอยู่สงบลง
 
 
ที่มาภาพ taipei times
 


โลงศพแฟนซีตามสั่ง 
 
ที่มาภาพ odd stuff magazine
 
โลงศพถือเป็นสิ่งสำคัญมากในงานศพและอาจจะเป็นของที่มีราคาแพงที่สุดในงาน ด้วยซ้ำ แต่ในเชื่อคุณจะต้องจ่ายเงินเพื่อซื้อโลงที่คุณจะใช้เป็นที่นอนสุดท้าย ทำไมไม่ซื้อแบบที่คุณชอบเสียเลยล่ะ อย่างที่ร้าน Fantasy coffins ในประเทศกานา ซึ่งถือเป็นรับทำโลงศพตามสั่งที่แฟนซีที่สุดเท่าที่เคยมีมา
 
ชาวกานาในทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศเชื่อกันว่า โลงศพควรจะสะท้อนถึงผู้ที่ใช้ว่า ตอนที่เขายังมีชีวิตอยู่เขาเป็นคนอย่างไร และสำหรับใครที่ต้องการโลงศพแบบแฟนซี ช่างทำโลงศพของกาน่าก็สามารถเนรมิตโลงศพแบบใดก็ได้ตามที่คุณต้องการ เช่น ถ้าคุณเป็นชาวประมง โลงของคุณก็อาจจะเป็นรูปปลาแบบนี้
 
 
ที่มาภาพ ghanaweb
หรือถ้าคุณเป็นคนติดโทรศัพท์มาก ก็มีโลงที่เหมาะกับคุณเหมือนกัน
 
 
ที่มาภาพ eshopafrica
 


หรือถ้าคุณเป็นนักดื่มตัวยง คุณก็อาจจะอยากได้โลงรูปขวดเหล้าที่บ่งบอกถึงตัวตนในสมัยที่ยังมีชีวิตอยู่
 
 
ที่มาภาพ odd stuff magazine
 


ถึงแม้จะดูเหมือนเป็นเรื่องตลกขำๆ แต่โลงเหล่านี้ก็ถูกใช้งานจริง อีกทั้งยังมีราคาแพงอีกด้วย และไม่กี่ปีมานี้งานฝีมือพวกนี้ก็ถูกนำไปจัดตั้งโชว์ตามงานศิลปะและ พิพิธภัณฑ์ต่างๆ ทั่วโลก ทำให้หลังๆมาโลงศพสั่งทำแบบพิเศษก็เริ่มได้รับความนิยมในประเทศแถบอังกฤษอีก ด้วย
 
 
ที่มาภาพ epromos
 


ใช้เถ้าของตัวเองเป็นกระสุนพลุ 
 
ที่มาภาพ wikipedia
 
นักเขียนผู้มีนิสัยขวางโลก Hunter S. Thompson มีนิสัยที่ชอบทำอะไรเพี้ยนๆ แบบสุดขั้ว และด้วยนิสัยแบบนี้กับด้วยความที่เขาใช้งานเสพติดเกินขนาดเป็นประจำก็นำไป สู่การฆ่าตัวตายในปี ค.ศ.2005
 
เมื่อถึงเวลาที่ต้องตัดสินใจกันว่าจะทำอย่างไรกับร่างของเขาดี ก็เป็นที่แน่นอนว่า จะให้จัดงานเรียบๆ ธรรมดาๆ แบบคนอื่นคงไม่เหมาะกับนิสัยของเจ้าตัวแน่ๆ ดังนั้น เพื่อให้เขาได้จากไปอย่างยิ่งใหญ่เหมือนตอนที่เขายังมีชีวิตอยู่ จึงได้มีการนำเถ้ากระดูกของเขาไปผสมกับดินระเบิดเพื่อใช้ทำเป็นดอกไม้ไฟ และสร้างแท่นยิงรูปกำปั้นสูง 150 ฟุตขึ้นมาเพื่อใช้ยิง
 
 
ที่มาภาพ certifiedrandom , summit-eng-group
 
พิธีการนี้เป็นไปตามคำสั่งเสียของเขา เมื่อเถ้ากระดูกและดินปืนทั้งหมดถูกบรรจุไว้ในปืนใหญ่ เหล่าญาติและเพื่อนที่รักของเขาก็พากันมารวมตัวกันเพื่อดูสิ่งที่เหลืออยู่ ของเขาถูกยิงขึ้นไปบนฟ้า กลายเป็นดอกไม้ไฟขนาดใหญ่ที่สวยงาม
 
 
ที่มาภาพ the-better-man.com
 
สำหรับใครที่ได้อ่านแล้วอยากจะเตรียมงานศพของตัวเองตามแบบนี้บ้าง คุณจะต้องมีเงินประมาณ 2 ล้านเหรียญดอลล่าร์เพื่อใช้ในการจัดงาน
 


งานศพของคนรักรถ 
ชาวอียิปต์โบราณเชื่อว่า คนตายควรจะถูกฝังพร้อมกับข้าวของส่วนตัวทั้งหมด เพื่อเขาจะได้มีไว้ใช้ในโลกหน้า สำหรับยุคปัจจุบัน Lonnie Holloway จากเมือง Saluda รัฐเซาท์แคโรไลนา นำเอาความเชื่อแบบนี้กลับมาอีกครั้งเมื่อเขาสั่งเสียไว้ว่า หากเขาตายแล้ว ให้นำเขาไปใส้ไว้ที่เบาะคนขับของรถรุ่นคลาสสิก Pontiac Catalina ปี 1973 สุดที่รัก แล้วฝังไปพร้อมๆ กันเสียเลย
 
 
ที่มาภาพ examiner
 
นอกจากคำสั่งเสียแปลกๆ นี้แล้ว Holloway ยังสั่งให้ครอบครัวของเขานำเงิน 100 ดอลล่าร์ใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อของเขา พร้อมกับให้ฝังคอลเล็กชันปืนที่สะสมไว้ไปกับเขาด้วย
 
แต่ Lonnie Holloway ก็ยังไม่อาจะเทียบได้กับ David Morales Colon ชายชาวเปอร์โตริโก ผู้ซึ่งสมัยที่ยังมีชีวิตอยู่เป็นสิงห์นักบิดตัวยง และเมื่อเขาเสียชีวิตแล้ว ร่างของเขาก็ถูกจัดแจงให้นั่งอยู่บนมอเตอร์ไซด์คันโปรดในท่ากำลังขับเหมือน กับตอนยังมีชีวิตอยู่
 
 
ที่มาภาพ nairaland
 
เป็นเวลา 3 วันที่ร่างของ David ถูกตั้งโชว์ไว้กลางงานศพที่จัดขึ้นที่บ้านของเขา ในท่าทางที่เหมือนกับกำลังจะขับมอเตอร์ไซด์ออกไป เขาอยู่ในชุดที่ใช้เวลาขับรถตามปกติ พร้อมหมวกและแว่นกัดแดด สมจริงเสียจนดูแทบไม่ออกเลยว่านี่เป็นร่างของคนที่ไม่มีชีวิตอยู่แล้ว
 
 
ที่มาภาพ nairaland
 


งานศพแบบ Drive-through 
 
ที่มาภาพ reuters
 
เราทุกคนต่างต้องเคยไปร่วมงานศพของคนที่เราไม่ได้รู้จักดีนัก ซึ่งส่วนมากเราก็แค่ไปนั่งเฉยๆ แล้วพยายามทำท่าทางให้สงบเสงี่ยมมากที่สุดตามสถานการณ์ แต่สำหรับบริษัทจัดงานศพในเมืองลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา เขารับจัดงานศพแบบ Drive-through สำหรับผู้ที่ต้องการมางานศพแบบรวดเร็ว
 
การมาร่วมงานศพแบบนี้ก็ทำได้อย่างรวดเร็วตามชื่อ Drive-through เลย คือ คุณแค่ขับรถเข้าไปดูศพที่ถูกจัดตั้งไว้ในห้องกระจกนานเท่าที่คุณต้องการ จากนั้นก็ขับรถออกไป ผู้จัดการร้านบอกไว้ว่า การจัดงานแบบนี้เหมาะมากสำหรับคนสูงอายุที่ไม่ค่อยมีแรงสำหรับการเดินทาง หรือสำหรับคนที่ไม่ได้รู้จักผู้ตายดีนัก
 
 
ที่มาภาพ reuters
 
ถึงจะดูแปลกๆ แต่บริษัทนี้ก็ไม่ใช่เจ้าเดียวที่รับจัดงานแบบนี้ ย้อนไปในช่วงปี ค.ศ.1980 ก็มีบริษัทจัดงานศพแบบ Drive-through ที่ชิคาโกเหมือนกัน ซึ่งแทบไม่ต่างอะไรกับร้าน Drive-through ของ McDonald เลย คุณแค่ขับรถเข้าไป แล้วสั่งว่าคุณต้องการมาพบกับใคร จากนั้นคุณก็จะขับยังส่วนแสดงภาพซึ่งมีจอขนาด 25 นิ้ว ฉายภาพของผู้ตายอยู่ ซึ่งภาพนี้จะโชว์อยู่แค่ 3 วินาทีเท่านั้น แต่คุณสามารถกดปุ่มเพื่อดูซ้ำได้เรื่อยๆ
 
 

everyday-readers.com

Friday, October 4, 2013




จากภาพด้านบนคือ ตำหนักของพระราชชายาเจ้าดารารัศมี สถานที่ ที่เจ้ายวงแก้วโดดลงมา

จากภาพด้านล่างคือ ข้าหลวงนางในจากราชวงศ์ฝ่ายเหนือในราชสำนักของพระราชชายาเจ้าดารารัศมี เจ้ายวงแก้ว(แถวนั่งองค์ที่2จากซ้าย)

การเล่นเพื่อน (ผู้หญิงกับผู้หญิง) จนนำไปสู่โศกนาฏกรรม..ชิงสวาท”รัก”นางใน
ในพระบรมมหาราชวัง พ.ศ. 2449 คนในยุคนั้นกล่าวกันเป็นเสียงเดียวกันว่า ตำหนักของพระราชชายาเจ้าดารารัศมี มีข้าหลวงและนางใน ซึ่งนับเป็นคนใกล้ชิดและเครือญาติของพระราชชายาทั้งสิ้น พระองค์ทรงเคร่งครัดต่อขนบธรรมเนียมประเพณีของชาวล้านนาเป็นอย่างมาก เช่น กุลสตรีทั้งหลายที่อยู่ในตำหนักต้องแต่งตัวแบบชาวเหนือ และเกล้าผมยาวแบบชาวเหนือตลอดเวลา

ด้วยขนบธรรมเนียมดังกล่าวนี้เอง จึงทำให้บรรยากาศในบริเวณพระตำหนักของเสด็จพระองค์ท่านเต็มไปด้วยกลิ่นอายของชาวเหนือ และนอกจากนั้นกุลสตรีเจริญวัยทั้งหลายก็ล้วนสวยสดและชวนชมเป็นที่สุด ในแง่ของความสวยสดงดงามต่างๆ ตลอดจนกิริยามารยาท ความงามของแต่ละนางได้ขจรขจายไปทั่วในราชสำนัก ดังปรากฏนามเจ้าหญิงผู้สวยเสน่ห์คนหนึ่งแห่งราชวงศ์ฝ่ายเหนือ เจ้าหญิงผู้นี้มีนามว่า “ ยวงแก้ว สิโรรส “

เจ้าหญิงยวงแก้ว สิโรรส เป็นคนรูปงามจนโดดเด่นมากในราชสำนักของพระราชชายา เจ้าหญิงเมืองเหนือองค์นี้เป็นคนที่ค่อนข้างจะใจคอเข้มแข็งห้าวหาญแสนงอนและดุดันมากอยู่ทีเดียว โศกนาฏกรรมรัก บังเกิดขึ้นในปี 2449 นั้นเอง กล่าวคือ ในสมัยนั้น พวกนางในข้าหลวงตำหนักต่าง ๆ นิยมการเล่นเพื่อน(ความรักของหญิงกับหญิง) จนกระทั่งเอาทรัพย์สินเป็นของขวัญแลกเปลี่ยนกันไปมามิได้ขาด

ปรากฏว่า เจ้าหญิงยวงแก้ว ก็มีแฟนเป็นผู้หญิงชื่อ หม่อมราชวงศ์หญิงวงศ์เทพ ผู้อยู่ในตำหนักของเจ้านายพระองค์หนึ่งในพระบรมมหาราชวังนั้นเอง แต่บังเอิญว่าหม่อมราชวงศ์หญิงวงศ์เทพผู้นี้ก็มีแฟนสาวอยู่ก่อนแล้วคนหนึ่ง ชื่อ น.ส. หุ่น จึงเกิดศึกชิงหม่อมราชวงศ์หญิงวงศ์เทพขึ้น ระหว่างน.ส.หุ่นกับเจ้าหญิงยวงแก้ว ต่างคนต่างชิงดีชิงเด่น ชิงไหวชิงพริบที่จะเอาชนะกัน และในขณะที่ชิงดีชิงเด่นกันนี้เอง น.ส.หุ่นได้ปล่อยข่าวเป็นเชิงใส่ไฟกรอกเข้าหูคนในวังว่า เจ้าหญิงยวงแก้วหลงไหลหม่อมราชวงศ์หญิงวงศ์เทพจนนำของมีค่าที่ได้ประทานจากพระราชชายา ซึ่งเป็นแก้วแหวนเงินทองเพชรพลอยไปปรนเปรอหม่อมราชวงศ์หญิงวงศ์เทพเสียหมดสิ้น

จนในที่สุดเรื่องก็แดงขึ้นรู้กันไปทั่วเขตราชฐานฝ่ายใน ไม่นานเรื่องก็ถึงหูของพระราชชายา พระองค์ทรงกริ้วเจ้าหญิงยวงแก้วอย่างรุนแรงและให้เอาของมาคืนพระองค์ให้หมด นอกจากนี้ ก็ให้คาดโทษว่าจะส่งกลับนครเชียงใหม่ให้เร็วที่สุด

เรื่องนี้ได้สร้างความอับอายให้ เจ้าหญิงยวงแก้วเป็นอย่างมากและที่สำคัญอายต่อเพื่อนๆข้าหลวงนางในจนไม่กล้าที่จะออกไปไหนมาไหน ทำให้เจ้าหญิงเกิดความกลุ้มใจเป็นอย่างมาก2–3วันต่อมาในคืนนั้นเองเจ้าหญิงยวงแก้วได้ นอนปรับทุกข์กับ เจ้าหญิงบัวชุม ณ เชียงใหม่ เพื่อนร่วมตำหนักถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น เจ้าหญิงยวงแก้ว พร่ำรำพัน ต่าง ๆ นานา ในความอาภัพของตนที่ถูกใส่ร้ายป้ายสีในครั้งนี้ แทนที่ทุกคนจะเห็นใจกลับเยาะเย้ยเหยียดหยามอีก เจ้าหญิงบัวชุมได้เพียรปลอบใจให้คลายโศกเศร้าลง แต่แล้วหลังจากเจ้าหญิงบัวชุมได้นอนหลับสนิทนั่นเอง..

เจ้าหญิงยวงแก้ว จึงได้หาข้อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนให้โลกได้รับรู้รู้ว่าตนนั้นเป็นผู้บริสุทธิ์มิได้กระทำดั่งข้อกล่าวหา เจ้าหญิงยวงแก้วจึงตัดสินใจเดินขึ้นไปบนตึกพระตำหนักชั้นบนสุด แล้วกระโดดลงมาอย่างไม่กลัวตาย ด้วยน้ำใจอันเด็ดเดี่ยว เพื่อให้โลกรู้ว่า “ข้ามิได้ทำผิดดังคนแกล้วใส่ความ” ในคืนนั้นเจ้าหญิงยวงแก้ว ถูกหามนำตัวไปรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลฝรั่ง ทางประตูผีท้องที่อำเภอสำราญราษฎร์และได้ถึงแก่ความตาย ณ โรงพยาบาลแห่งนั้น.. ด้วยวัยเพียง 19ปี

ที่มา ขอขอบคุณ เพชรล้านนา” ปรานี ณ พัทลุง

เพื่อให้สมาชิกได้อ่านอย่างเข้าใจง่ายขึ้นแอดมินจึงขออนุญาตใช้คำสามัญเป็นบางส่วนและเรียบเรียงถ้อยคำเพื่อเพิ่มความสะดวกในการอ่านของสมาชิกครับ ขอบคุณสมาชิกทุกท่าน

จากภาพด้านขวาคือ ภาพการเล่นเพื่อที่ฝาผนังวัดคงคาราม จ.ราชบุรี อายุกว่า 200 ปี สื่อให้รู้ว่าการเล่นเพื่อนนี้มีมาแต่สมัยโบราณแล้ว

เครดิต: postjung.com